Language Switcher Button Only
Edit Content

Address

1788 อาคารสิงห์คอมเพล็กซ์ ชั้นที่ 30 ยูนิต 3001–3003, 3009–3014 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310

Stay Connected

8 เหตุผลที่ทำไมเว็บไซต์ของคุณไม่ติดอันดับ Google (พร้อมวิธีแก้ไขฉบับ 2025)

8 เหตุผลที่ทำไมเว็บไซต์ของคุณไม่ติดอันดับ Google (พร้อมวิธีแก้ไขฉบับ 2025)

“ลงทุนทำเว็บไซต์ไปตั้งเยอะ แต่ทำไมเวลา เช็คอันดับ Google แล้วหาไม่เจอ?”… คุณไม่ได้รู้สึกแบบนี้คนเดียวครับ นี่คือฝันร้ายของเจ้าของธุรกิจจำนวนมาก การมีเว็บไซต์ที่ลูกค้าค้นหาไม่เจอก็ไม่ต่างอะไรกับการมีร้านค้าที่ไม่มีใครรู้จักที่อยู่

ปัญหา เว็บไม่ติด Google อาจดูน่ากังวล แต่ส่วนใหญ่มักมีสาเหตุที่สามารถตรวจสอบและแก้ไขได้ บทความนี้ GinieDigital จะพาคุณมาสวมบทเป็นหมอรักษาเว็บไซต์ ตรวจเช็ค 8 อาการหลักที่ทำให้เว็บของคุณป่วย พร้อมจ่ายยาที่ถูกต้องด้วย วิธีทำให้เว็บติด Google อีกครั้ง เพื่อให้ธุรกิจของคุณกลับมาแข็งแรงบนโลกออนไลน์ในปี 2025

Google รู้จักเว็บไซต์ของคุณแล้วหรือยัง?

ก่อนจะไปดู 8 สาเหตุหลัก เราต้องถามคำถามพื้นฐานที่สุดก่อน: Google รู้จักการมีอยู่ของเว็บไซต์คุณ (Index) แล้วหรือยัง?

วิธีตรวจสอบ: พิมพ์คำสั่ง site:yourdomain.com (เปลี่ยน yourdomain.com เป็นชื่อเว็บของคุณ) ลงในช่องค้นหาของ Google

  • ถ้ามีรายชื่อหน้าเว็บของคุณปรากฏขึ้น: ยินดีด้วย! Google รู้จักเว็บคุณแล้ว ข้ามไปอ่าน 8 สาเหตุหลักได้เลย
  • ถ้าไม่พบผลลัพธ์ใดๆ: นี่คือปัญหาด่านแรกสุด! เว็บไซต์ของคุณยังไม่ได้ถูกเก็บเข้าสู่ระบบของ Google วิธีแก้ไขเบื้องต้นคือการสมัครใช้งาน Google Search Console และทำการส่งแผนผังเว็บไซต์ (Sitemap)
เว็บไซต์ของคุณยังไม่ได้ถูกเก็บเข้าสู่ระบบของ Google วิธีแก้ไขเบื้องต้นคือการสมัครใช้งาน Google Search Console และทำการส่งแผนผังเว็บไซต์ (Sitemap)

8 สาเหตุหลักที่ทำให้เว็บไม่ติด Google และวิธีแก้เกม

1. ปัญหาด้านเทคนิค (Technical SEO) กำลังขัดขวางอยู่

บางครั้งเว็บไซต์ของคุณอาจมี “ป้ายห้ามเข้า” ที่มองไม่เห็นติดอยู่โดยไม่รู้ตัว

  • อาการ: อาจมีการตั้งค่า noindex ในหน้าสำคัญ ซึ่งเป็นคำสั่งบอก Google ว่า “ห้ามเก็บข้อมูลหน้านี้” หรือไฟล์ robots.txt ของคุณอาจบล็อกไม่ให้ Googlebot เข้าถึงส่วนสำคัญของเว็บไซต์
  • วิธีแก้ไข: เข้าไปที่ Google Search Console และดูรายงาน “การครอบคลุม (Coverage)” เพื่อตรวจสอบหาหน้าที่ถูกบล็อกหรือมีข้อผิดพลาด จากนั้นปรึกษาผู้พัฒนาเพื่อแก้ไขโค้ดหรือไฟล์ robots.txt ให้ถูกต้อง

2. เว็บไซต์ของคุณยังใหม่เกินไป (Google Sandbox)

หากคุณเพิ่งเปิดตัวเว็บไซต์ได้ไม่นาน การที่ยังไม่ติดอันดับถือเป็นเรื่องปกติ

  • อาการ: เว็บไซต์มีอายุไม่ถึง 3-6 เดือน Google ยังอยู่ในช่วง “เรียนรู้” และประเมินความน่าเชื่อถือของเว็บคุณ ซึ่งเรียกกันว่าช่วง Google Sandbox
  • วิธีแก้ไข: อดทนและสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพอย่างสม่ำเสมอ โปรโมทเว็บไซต์ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียเพื่อสร้าง Traffic เริ่มต้น และเริ่มสร้าง Backlink ที่มีคุณภาพเพื่อเร่งกระบวนการสร้างความไว้วางใจ

3. เนื้อหาไม่มีคุณภาพ หรือไม่ตรงกับที่คนค้นหา

ในยุคที่ Google ฉลาดขึ้น เนื้อหาคือหัวใจของการจัดอันดับ

  • อาการ: เนื้อหาในเว็บสั้นเกินไป, คัดลอกมาจากที่อื่น, หรือเป็นเพียงเนื้อหาขายของที่ไม่ได้ให้ประโยชน์หรือตอบคำถามที่กลุ่มเป้าหมายของคุณกำลังค้นหา
  • วิธีแก้ไข: สร้างสรรค์ “Helpful Content” หรือเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ ตอบคำถามที่พวกเขาสงสัย ให้ข้อมูลเชิงลึก และนำเสนอในรูปแบบที่อ่านง่าย มีรูปภาพหรือวิดีโอประกอบ

4. เลือกใช้คีย์เวิร์ดผิดเป้าหมาย

การพยายามติดอันดับในคำที่ไม่ใช่คำที่ลูกค้าของคุณใช้ค้นหาก็เหมือนการพายเรือในอ่าง

  • อาการ: ตั้งเป้าคีย์เวิร์ดที่มีการแข่งขันสูงเกินไป (เช่น “ประกันรถยนต์”) หรือใช้คีย์เวิร์ดที่เฉพาะกลุ่มเกินไปจนไม่มีคนค้นหา
  • วิธีแก้ไข: ทำการวิจัยคีย์เวิร์ด (Keyword Research) เพื่อค้นหา “Long-tail Keywords” (คำค้นหาแบบยาว) ที่เจาะจงและมีการแข่งขันน้อยกว่า เช่น แทนที่จะใช้คำว่า “โรงแรม กรุงเทพ” ให้ลองใช้ “โรงแรมใกล้ BTS สยาม สำหรับครอบครัว”

5. ประสบการณ์ผู้ใช้งานบนเว็บย่ำแย่ (Poor Page Experience)

ถ้าลูกค้าเข้าเว็บคุณแล้วหนีทันที Google จะถือว่าเว็บของคุณไม่มีคุณภาพ

  • อาการ: เว็บไซต์โหลดช้ามาก (เกิน 3 วินาที), ใช้งานบนมือถือไม่ได้ (Not Mobile-Friendly), มี Pop-up กวนใจเยอะเกินไป
  • วิธีแก้ไข: ใช้เครื่องมือ Google PageSpeed Insights เพื่อทดสอบและปรับปรุงความเร็ว, ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บไซต์เป็น Responsive Design, และออกแบบโดยคำนึงถึงผู้ใช้งานเป็นหลัก
ภาพประสบการณ์ผู้ใช้งานที่แย่บนมือถือ หนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เว็บไม่ติด Google

6. ขาด Backlink ที่มีคุณภาพและความน่าเชื่อถือ (Domain Authority)

Backlink เปรียบเสมือน “คะแนนเสียง” จากเว็บไซต์อื่น หากไม่มีใครอ้างอิงถึงคุณเลย Google ก็จะไม่เชื่อมั่นในตัวคุณ

  • อาการ: เว็บไซต์ไม่มีลิงก์จากเว็บภายนอกที่มีคุณภาพชี้กลับมาหาเลย ทำให้ค่าความน่าเชื่อถือ (Domain Authority) ต่ำ
  • วิธีแก้ไข: สร้างเนื้อหาที่ยอดเยี่ยมจนคนอื่นอยากนำไปแชร์ต่อ (Linkable Asset), ร่วมมือกับเว็บไซต์อื่นในอุตสาหกรรมเดียวกันเพื่อทำ Guest Post, หรือนำธุรกิจไปลงในไดเรกทอรีออนไลน์ที่น่าเชื่อถือ

7. คู่แข่งของคุณแข็งแกร่งและทำได้ดีกว่า

บางครั้งไม่ใช่ว่าคุณทำไม่ดี แต่เป็นเพราะคู่แข่งของคุณทำได้ดีกว่า

  • อาการ: คู่แข่งมีเนื้อหาที่ครอบคลุมกว่า, มี Backlink มากกว่า, และเว็บไซต์มีประสบการณ์ใช้งานที่ดีกว่าคุณ
  • วิธีแก้ไข: ทำการวิเคราะห์คู่แข่ง (Competitor Analysis) เพื่อดูว่าพวกเขทำอะไรได้ดี และหา “ช่องว่าง” หรือโอกาสที่คุณจะทำได้ดีกว่า เช่น การสร้างเนื้อหาในมุมที่คู่แข่งยังไม่เคยทำ หรือการเจาะตลาดกลุ่มย่อย (Niche Market)

8. ถูก Google ลงโทษ (Manual Action)

เป็นกรณีที่พบได้ไม่บ่อยแต่รุนแรงที่สุด มักเกิดจากการใช้เทคนิค SEO สายดำ

  • อาการ: อันดับหายไปจากทุกคีย์เวิร์ดในชั่วข้ามคืน
  • วิธีแก้ไข: เข้าไปที่ Google Search Console และตรวจสอบเมนู “การดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ (Manual Actions)” หากมีการแจ้งเตือน คุณต้องแก้ไขปัญหาตามที่ Google แนะนำ (เช่น ลบ Backlink ที่ไม่มีคุณภาพ) แล้วจึงยื่นเรื่องขอพิจารณาใหม่

ตารางสรุปปัญหาและแนวทางแก้ไข

ปัญหา (Symptom)สาเหตุที่เป็นไปได้ (Possible Cause)วิธีแก้ไขเบื้องต้น (First Aid)
ค้นหาเว็บตัวเองไม่เจอเลยยังไม่ถูก Indexส่ง Sitemap ผ่าน Google Search Console
อันดับไม่ขยับเว็บใหม่, เนื้อหาน้อยสร้าง Helpful Content อย่างสม่ำเสมอ
Traffic น้อยเลือกคีย์เวิร์ดผิด, UX ไม่ดีทำ Keyword Research, ปรับปรุงความเร็วเว็บ
อันดับสู้คู่แข่งไม่ได้ขาด Backlink, คู่แข่งดีกว่าวิเคราะห์คู่แข่ง, เริ่มสร้าง Backlink คุณภาพ
อันดับหายไปเฉยๆถูกลงโทษ (Penalty)ตรวจสอบ Manual Actions ใน GSC

เครื่องมือสำคัญ: Google Search Console (GSC)

ในการวินิจฉัยปัญหา เว็บไม่ติด Google ทั้งหมดนี้ เครื่องมือที่สำคัญที่สุดคือ Google Search Console ซึ่งเป็นเครื่องมือฟรีจาก Google ที่จะรายงานสุขภาพเว็บไซต์ของคุณโดยตรง คุณสามารถใช้ GSC เพื่อ:

  • ดูว่า Google มองเห็นเว็บไซต์ของคุณอย่างไร
  • ตรวจสอบว่าหน้าใดมีปัญหาในการ Index
  • ดูคีย์เวิร์ดที่คนใช้ค้นหาแล้วเจอเว็บของคุณ
  • รับการแจ้งเตือนเมื่อมีปัญหาทางเทคนิคหรือถูกลงโทษ การติดตั้งและเรียนรู้วิธีใช้ GSC คือก้าวแรกที่สำคัญที่สุดใน วิธีทำให้เว็บติด Google

ที่ GinieDigital เราเชี่ยวชาญในการวินิจฉัยและแก้ปัญหา เว็บไม่ติด Google ให้กับธุรกิจ SME ในไทยมานับไม่ถ้วน เราเข้าใจดีว่าแต่ละปัญหามีความซับซ้อนและต้องการวิธีแก้ไขที่แตกต่างกัน ประสบการณ์ของเราทำให้เราสามารถระบุสาเหตุได้อย่างแม่นยำและวางแผนการแก้ไขได้อย่างเป็นระบบ ตั้งแต่การปรับแก้ทางเทคนิคไปจนถึงการวางกลยุทธ์เนื้อหาใหม่ทั้งหมด เราจึงมั่นใจว่าคำแนะนำในบทความนี้กลั่นกรองมาจากประสบการณ์จริงที่สามารถช่วยคุณได้

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

ทำ SEO ไปแล้วทำไมอันดับยังไม่ดีขึ้น?

การทำ SEO ต้องใช้เวลา โดยทั่วไปอาจใช้เวลา 3-6 เดือนจึงจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน หากเกินกว่านั้นแล้วอันดับยังไม่ดีขึ้น อาจเป็นไปได้ว่ากลยุทธ์ที่ทำอยู่อาจไม่ถูกต้อง เช่น เลือกคีย์เวิร์ดผิด, เนื้อหาไม่มีคุณภาพพอ, หรือมีปัญหาทางเทคนิคที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข

การซื้อ Backlink ทำให้เว็บติดอันดับเร็วขึ้นจริงไหม?

การซื้อ Backlink เป็นการกระทำที่ผิดนโยบายของ Google และมีความเสี่ยงสูงมากที่จะถูกลงโทษ (Penalty) ซึ่งจะทำให้อันดับหายไปและแก้ไขได้ยาก แม้บางครั้งอาจเห็นผลในระยะสั้น แต่ไม่คุ้มค่ากับความเสี่ยงในระยะยาวอย่างแน่นอน

ถ้าเว็บเคยติดอันดับดีแล้วตกลงมา จะกลับไปที่เดิมได้ไหม?

ได้แน่นอนครับ แต่ต้องหาสาเหตุที่ทำให้อันดับตกให้เจอเสียก่อน ซึ่งอาจเกิดจากการอัปเดตอัลกอริทึมของ Google, การที่คู่แข่งทำได้ดีกว่า, หรือการสูญเสีย Backlink ที่สำคัญไป เมื่อระบุสาเหตุและแก้ไขได้ตรงจุดแล้ว อันดับก็จะค่อยๆ ฟื้นตัวกลับมาได้

จำเป็นต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ดเพื่อแก้ปัญหา SEO หรือไม่?

ไม่จำเป็นเสมอไปครับ ปัญหาหลายอย่าง เช่น การปรับปรุงเนื้อหา หรือการสร้าง Backlink สามารถทำได้โดยไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องโค้ด แต่สำหรับปัญหาทางเทคนิคบางอย่าง เช่น ความเร็วเว็บไซต์ หรือ Schema Markup การปรึกษาผู้พัฒนาหรือผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

ควรให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาทางเทคนิคหรือการสร้างเนื้อหาก่อน?

ควรเริ่มจากการแก้ปัญหาทางเทคนิคก่อนครับ เปรียบเสมือนการซ่อมแซมฐานรากของบ้านให้แข็งแรง เมื่อบ้านแข็งแรงแล้ว การตกแต่งภายใน (สร้างเนื้อหา) ก็จะเกิดประสิทธิภาพสูงสุด หากบ้านยังมีรูรั่ว การตกแต่งให้สวยงามก็ไร้ประโยชน์

สรุป: ทุกปัญหามีทางออกเสมอ

การที่เว็บไซต์ของคุณยังไม่ติดอันดับ Google ไม่ได้หมายความว่าคุณล้มเหลว มันเป็นเพียงสัญญาณบอกว่ายังมีบางจุดที่ต้องปรับปรุง ลองใช้ 8 ข้อนี้เป็นแนวทางในการตรวจสอบและแก้ไข และจำไว้เสมอว่า SEO คือการเดินทางที่ต้องอาศัยความสม่ำเสมอและการเรียนรู้ตลอดเวลา

หากคุณรู้สึกว่าปัญหานั้นซับซ้อนเกินไป หรือต้องการผู้เชี่ยวชาญมาช่วย เช็คอันดับ Google และวางแผนแก้ไขอย่างเป็นระบบ ทีมงาน GinieDigital พร้อมให้คำปรึกษาและช่วยเหลือคุณ

อ้างอิงจาก

  1. Google Search Central Blog: https://developers.google.com/search/docs/fundamentals/how-search-works
  2. Ahrefs Blog: https://ahrefs.com/blog/why-dont-some-pages-rank/
  3. Moz: https://moz.com/learn/seo/why-your-site-isnt-ranking

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *